Bigorexia Syndrome คืออะไร ป้องกันแบบไหนดี
หลายคนอาจจะไม่รู้จักว่า Bigorexia Syndrome หรือ ไบกอร์เร็กเซีย คืออะไร แท้จริงแล้วโรคนี้คือผู้ป่วยที่มีความคิดว่ากายภาพหรือรูปร่างของตัวเองไม่แข็งแรง ไม่ล่ำสัน ไม่มีกล้ามเนื้อมากเพียงพอ แต่ในความเป็นจริงร่างกายของตัวเองปกติ สมส่วนและไม่ได้มีปัญหาอะไร โรคนี้จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มคนที่คิดว่ารูปร่างอวัยวะผิดปกติ ( Body Dsymophic Diorder : BDD ) จนกลายเป็นพฤติกรรมที่ย้ำคิด ย้ำทำ ชอบหมกมุ่นและอคติกับรูปร่างของตนเอง สาเหตุอาจจะเกิดได้หลากหลายรูปแบบจากปมในอดีตตั้งแต่วัยเด็กหรือเป็นส่วนหนึ่งของสารเคมีในสมองบางตัว เรียกได้ว่าพฤติกรรมที่โดนรังแก โดนบูลลี่รูปร่างตั้งแต่วัยเด็กอาจจะส่งผลกระทบหรือเป็นปัจจัยที่กระทบมาจนถึงปัจจุบัน วันนี้เราจะพาทุกคนไปป้องกัน Bigorexia Syndrome เพื่อเปลี่ยนมุมมองการเริ่มรักษาจากตัวเองก่อน
1. เชิดชูตัวเอง
หลายครั้งพฤติกรรมที่มักหาข้อบกพร่องตัวเองมักเกิดจากการไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองดีอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรเริ่มต้นด้วยการเชิดชูตัวเอง ชื่นชมตัวเองในรูปร่างและจิตวิญญาณที่ดีอยู่แล้วของตัวคุณเอง
2. ปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์
หากคุณเคยเห็นตัวเองมาเป็นเวลานาน จากการแต่งตัวเดิมๆ ชุดเดิมๆ ทรงผมเดิมๆ ไลฟ์สไตล์เดิมๆ ลองเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้วยเสื้อผ้าและทรงผมใหม่ อาจจะช่วยปรับเปลี่ยนมุมมองของคุณให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น ไม่คิดลบต่อร่างกายของตัวเอง
3. เลิกเปรียบเทียบ
เมื่อคุณเห็นรูปร่างตัวเองและไปดูต้นแบบที่ดีกว่ามันอาจจะส่งผลให้คุณเกิดการเปรียบเทียบและเริ่มคิดว่ากายภาพหรือรูปร่างของตัวเองไม่แข็งแรง ไม่มีกล้ามเนื้อหรือมีกล้ามเนื้อมากเกินไป คุณต้องเลิกเปรียบเทียบและพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ยิ้มรับกับรูปร่างที่สมส่วนและปกติของตัวเอง การเลิกเปรียบเทียบอาจจะช่วยให้คุณฟื้นฟูสภาพจิตใจได้เร็วขึ้น
4. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ทั้งยังฝึกสมาธิและจิตใจไม่ให้โฟกัสเรื่องไม่ดีจนเกินไป คุณต้องปรับเปลี่ยนแนวคิดและยอมรับรูปร่างหรือสัดส่วนที่คุณเป็น หันไปโฟกัสที่เรื่องออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงก็อาจจะช่วยได้ให้คุณไม่โฟกัสรูปร่างที่ผิดส่วนประกอบในแบบที่คุณคิดไปเอง
5. หางานอดิเรกที่ไม่โฟกัส
คุณต้องหัดฝึกความคิด หากคุณเริ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะคิดเรื่องรูปร่างต้องหันไปสนใจทำอย่างอื่นเพื่อไม่ให้โฟกัส เช่น ไปหางานอดิเรกที่เป็นเป้าหมายอื่นแทน เป็นการเบี่ยงประเด็นและไม่ให้ความสนใจ
ทั้งนี้ทั้งนั้น Bigorexia Syndrome จำเป็นต้องปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อบำบัดจิตและใช้ยาเคมีบำบัดควบคู่รวมทั้งต้องให้แพทย์เป็นคนสั่งยาและแนะนำ ถึงแม้โรคนี้จะยังมีน้อยเพียงแค่ 1-2% ในสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ควรมองข้ามเพราะหากผู้มีอาการ เป็นแล้วหาย สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตและความคิดของคุณให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำเพื่อสุขภาพจิตที่ดีในระยะยาว
ข้อมูลอ้างอิง :
By : ArMs