เปลี่ยนเงินเย็นให้เป็นเงินลงทุน
"เงินเย็น" ที่ไม่ใช่ "เงินเยน" 2 คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ต่างความหมายกัน
ขอเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนในวัยทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น ต้องแลกเงินเยน ไปใช้เพราะเงินเยนเป็นสกุลเงินของประเทศญี่ปุ่น นี่คือความหมายของ ‘เงินเยน’
แต่อีกความหมาย ‘เงินเย็น’...คือเงินนอนอยู่ในบัญชีนิ่งๆโดยที่เราต้องไม่ไปจับ ไม่ไปแตะ ห้ามบอกตัวเองว่า ยืมก่อนน้า เดี๋ยวคืน ไม่ได้!!
เพราะเงินเย็นคือเงินที่เอาไว้ใช้ในเวลาฉุกเฉิน หรือเงินเย็นสำหรับการลงทุนในอนาคต ไม่ใช่เงินที่เราไปกู้ เงินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ย ไม่ใช่เงินที่จะใช้ในชีวิตประจำวัน
พอเห็นภาพหรือยังว่าความแตกต่างคืออะไร ถ้ายังไม่เข้าใจวันนี้เราจะพาทุกคนไปเรียนรู้วิธีการออมเงิน(เย็น) เพื่อการลงทุนว่ามีอะไรบ้าง
1. แบ่งเงินจากรายได้หลัก 10-20% ต่อเดือน
เพื่อเข้าบัญชีฝากประจำในทุกๆเดือน เมื่อเวลาผ่านไป จำนวนเงินเย็นก็จะเพิ่มมากขึ้นพร้อมกับดอกเบี้ย ดังนั้นการจะออมเงินประจำที่ธนาคารไหนเราควรศึกษาว่าธนาคารไหนให้ดอกเบี้ยในระยะยาวกับเรามากที่สุด เพื่อเป็นทางเลือกในการออมเงินเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. วางแผนจัดสรร และตั้งเป้าหมายการเก็บเงิน ภายใน 6 เดือน หรือ 1 ปี
ว่าเราจะต้องเก็บเงินเย็นได้เท่าไหร่เพื่อการลงทุน เพื่อเงินก้อนในยามฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นจึงต้องวางแผนให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน
3. เริ่มมองหาวิธีเก็บเงินในรูปแบบใหม่
ยกตัวอย่าง โดยการวางแผนไม่ใช้แบงค์ 100 เมื่อครบเดือนเก็บได้กี่ใบสมทบเท่าจำนวนเข้าบัญชีเงินออม เพื่อฝึกวิธีการใช้เงินและชั่งใจก่อนตัดสินใจใช้จ่ายเงิน
4. ออมด้วยทองคำแท่ง
ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน การออมเงินด้วยการซื้อทองก็ยังเป็นทางออกสำหรับใครหลายคน แต่ราคาของทองก็มีการผันผวน เราต้องเลือกซื้อตอนราคาทองลงเพื่อหวังผลกำไรในอนาคต โดยการตั้งเป้าหมายในแต่ละเดือนหรือปีว่าจะเก็บให้ได้ทองกี่บาท ก็ขึ้นอยู่กับกำลังและความต้องการของคุณ
5. หารายได้อีกทาง และเอากำไรไปลงเป็นเงินออม
มีหลายคนที่มีอาชีพหรือมีรายได้มากกว่า 1 ทาง การแบ่งเงินจากรายได้พิเศษมาเป็นเงินออมย่อมเป็นการสร้างเม็ดเงินให้เพิ่มมากขึ้น
นี่อาจจะเป็นแค่ตัวอย่างในการออมเงิน แต่หลายคนก็มีวิธีออมเงินในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น การออมเงินเพื่อเป็นเงินเย็นในอนาคตถือว่าเป็นเรื่องดี และตัวอย่างในการนำเงินเย็นไปลงทุนมีอะไรบ้าง เราจึงยกตัวอย่างให้ทุกคนเห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
1. เปลี่ยนเงินเย็น...เพื่อทำธุรกิจ
คือวางแผนสำหรับอนาคตว่าเราจะนำเงินเย็นไปลงทุนทำธุรกิจของครอบครัว ธุรกิจที่เราอยากจะทำ เงินเย็นจะสามารถสร้างความฝันและสร้างธุรกิจของคุณให้เป็นจริงได้ ไม่ต้องมีหนี้สิน
2. เปลี่ยนเงินเย็น...เป็นสินทรัพย์
คือการลงทุนโดยการซื้อที่ ซื้อคอนโด ซื้อบ้านไว้ปล่อยเช่า หรือเก็งกำไรในอนาคต การที่เรามีเงินเย็นจะสามารถซื้อโดยที่ไม่โดนดอกเบี้ย และทำให้ได้ผลกำไรที่มากกว่าในอนาคต
3. เปลี่ยนเงินเย็น...เพื่อเทรดหุ้น
คือการลงทุนด้วยหุ้น การนำเงินเย็นบางส่วนมาลงทุนเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นหรือระยะยาว เพื่อให้ได้ผลกำไรตอบแทนในอนาคต
แต่อย่าลืมว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง ‘เงินเย็น’ จึงเป็นเงินที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เป็นเงินที่เราออมไว้สำหรับการลงทุนโดยเฉพาะ ดังนั้นเราจึงศึกษารายละเอียดของการลงทุนและเปลี่ยน ‘เงินเย็น’ ให้เป็นการลงทุนที่เกิดประโยชน์มากที่สุด
BY : ArMs