การตลาด 4E คืออะไร มีอะไรบ้าง
หลายคนคงคุ้นเคยกับ การตลาดแบบ 4P หรือ Marketing Mix ที่ประกอบไปด้วย Product, Price, Place และ Promotion ซึ่งเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดสุดคลาสสิคที่เน้นที่ตัวสินค้าหรือบริการเป็นหลักและเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่เทคโนโลยีต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทำให้การขายไม่ใช่เป็นเพียงแค่ขายการขายสินค้าหรือบริการเท่านั้น แต่เป็นการขายที่ต้องเน้นการสร้างความประทับใจและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วย จึงได้มี การพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดที่เรียกว่า การตลาด 4E ขึ้นมา
การตลาด 4E ประกอบไปด้วย
1. Experience เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าเมื่อซื้อสินค้าหรือบริการจากเรา
การทำธุรกิจในยุคนี้ไม่เหมือนกับการทำธุรกิจในยุคก่อนๆ ที่เน้นขายสินค้าหรือบริการเพียงอย่างเดียว แต่ต้องเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วย เพราะถ้าขายของหรือบริการเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในยุคนี้ได้ ตัวอย่างหากคุณเปิดร้านขายกาแฟ นอกจากในเรื่องของรสชาติแล้ว อะไรคือสิ่งที่จะทำให้ลูกค้าเข้ามาในร้านของคุณ? เช่น บรรยากาศภายในร้าน, ความเป็นกันเองของพนักงานภายในร้าน, มุมถ่ายรูป เป็นต้น
2. Exchange เป็นการสร้างคุณค่าให้กับสินค้าหรือบริการ
ในยุคนี้การแข่งขันกันด้วยเรื่องของการตั้งราคาอาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีที่สุดเสมอไป ในกลยุทธ์ การตลาด 4E เราจะต้องสร้างคุณค่าหรือเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และบริการของเราเพื่อให้ลูกค้าพร้อมที่จะควักเงินซื้อสินค้า หรือเข้ามาใช้บริการในร้านของเรา เช่น เราขายรองเท้าเพื่อสุขภาพ เราอาจจะมีวิธีนำเสนอคุณค่าของวัตถุดิบและขั้นตอนในการทำรองเท้าว่าต้องผ่านขั้นตอนกระบวนการอะไรบ้าง กว่าจะได้เป็นรองเท้าออกมา 1 คู่
3. Everywhere เป็นการทำให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้า และบริการของเราได้ง่ายยิ่งขึ้น
โดยการเพิ่มโอกาสการขายในทุกๆ ช่องทางเพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าและบริการของเราได้มากขึ้น ยิ่งในยุคดิจิทัลแบบนี้มีช่องทางการขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, Youtube, Page, Website, TikTok. Shopee, Lazada หรือถ้าคุณเปิดร้านขายอาหารหรือเครื่องดื่มก็สามารถเข้าร่วม delivery กับ Lineman, Grab, Panda Food ก็ได้
4. Evangelism การทำให้ลูกค้าขาจรกลายมาเป็นลูกค้าประจำ
พัฒนาสู่การเป็นสาวก แฟนคลับ กลยุทธ์การตลาดแบบ ลด แลก แจก แถม เพื่อทำให้ลูกค้าขาจรกลายมาเป็นลูกค้าขาประจำนั้นอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไปสำหรับการทำตลาดในยุคนี้ เราจะต้องมานั่งคิดต่อไปว่า เราจะใช้องค์ประกอบทั้ง 3E ซึ่งได้แก่ Experience, Exchange และ Everywhere อย่างไรเพื่อให้เกิด แฟนคลับ หรือ สาวก โดยอาจจะสร้างเป็นเรื่องราวของแบรนด์ให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกผูกพัน หรือสร้างประสบการณ์และกิจกรรมร่วมกันกับลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าเกิดความประทับใจและบอกต่อ
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงจะมองเห็นภาพกลยุทธ์ การตลาด 4E มากขึ้นแล้ว และเราสามารถนำกลยุทธ์การตลาด 4E มาวิเคราะห์ร่วมกับกลยุทธ์การตลาด 4P ได้ เพื่อสร้างความโดดเด่นและความแข็งแกร่งให้กับสินค้าและบริการของเรา